ในทัศนะของอาเหม็ด การเป็นทุกข์ไม่ใช่การจมจ่อมอยู่กับพลังลบที่ขัดขวางไม่ให้คนอื่นได้เป็นสุข แต่เป็นความรู้สึกคับข้องใจที่สามารถนำไปสู่ การลงมือกระทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้
การทุกข์ทรมานอาจหมายถึงการรู้สึกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ถูกตัดสินว่าดี เมื่อเป็นเช่นนี้ ความทุกข์ทรมานจึงจัดเป็นการกระทำเชิงรองรับ(receptivity) ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกระทำบางอย่าง การขยับจากความสุขไปเป็นความทุกข์ทรมาน (หรืออาจกล่าวได้ว่าขยับไปเป็นความผิดหวังจากการสูญเสียความคิดเรื่องความสุขจนต้องทุกข์ตรม) สามารถกระตุ้นให้เรากระทำบางอย่างได้ (น. 366)
คำถามก็คือ ขณะที่ผู้ไร้สุขต่อสู้เพื่อสร้างความเป็นไปได้ของความสุขในรูปแบบที่ต้องการด้วยการยืนยันความทุกข์ของตนเอง เป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้มีสุขก็กำลังต่อสู้เพื่อยืนยันความเป็นไปไม่ได้ของความสุขในรูปแบบอื่น ด้วยการยืนกรานว่าตัวเองมีความสุขดีอยู่แล้ว? คนที่มีความต้องการในชีวิตสอดคล้องกับสิ่งซึ่งได้รับการนิยามให้เป็นเรื่องถูกต้องดีงาม (เช่น การแต่งงานการหลอมรวมทางวัฒนธรรม และความสงบ) อาจดูเหมือนเป็นคนโชคดีโดยบังเอิญ (ในบริบทไทย อาจเรียกได้ว่าเป็นคน ‘มีบุญ’) แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความสุขที่ได้จากวัตถุแห่งความปรารถนาต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้พาเราออกจากชีวิตที่ดีกว่า หรือจำกัดเส้นทางชีวิตของเราจนเรามองไม่เห็นทางเลือก? การปฏิเสธที่จะพิจารณาความเป็นไปได้ของความเป็นไปได้ที่ยังไม่มีอยู่ในวันนี้ (ซึ่งถ้าจะว่ากันจริงๆ อาจแค่ไม่มีอยู่ในสังคมหนึ่ง แต่มีอยู่ทั่วไปในสังคมอื่นๆ) มองด้านหนึ่งอาจเป็นคุณธรรมสำคัญของการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขนั่นคือการพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่มองอีกด้านหนึ่ง มันคือการยอมจำนนต่อโชคชะตาที่ถูกลิขิตโดยคนอื่น และบ่อยครั้งลามมาถึงการบังคับให้คนอื่นยอมจำนนตามไปด้วยในนามของความสุข
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์