ผมเลือกจะขายหนังสือของพวกเขาตามราคาที่มันสมควรจะได้แทนที่จะตายตามราคาปก พวกเขาเขียนจดหมายมาหาผมเกี่ยวกับเรื่องการรักษาระดับราคา และผมเขียนกลับไปบอกพวกเขาเรื่องการรักษาระดับคุณภาพ ตีพิมพ์หนังสือดีๆสิ แล้วผมจะให้ราคาดีๆเหมือนกัน
ผมคิดถึงคนทั่วไปในประเทศนี้ที่ไม่เคยได้มีโอกาสได้แตะหนังสือเลย ไม่เคยมีใครอธิบายให้พวกเขาฟังด้วยว่า หนังสือสามารถจะเป็นอะไรได้บ้าง ผู้คนต้องการสิ่งที่ดี เรียบง่าย และตรงไปตรงมา บางอย่างที่ทำให้พวกเขารู้สึกอิ่มเอม ทำให้พวกเขาหัวเราะ ใครก็ตามที่ทำให้คนในประเทศนี้อ่านอะไรที่คู่ควรได้ก็เท่ากับว่าได้รับใช้ประเทศอย่างแท้จริงแล้ว! และนั่นแหละครับที่เกวียนแห่งวัฒนธรรมเล่มนี้ปรารถนาจะทำ
Celestophia
อ้าว พอจะรีวิวหนังสือก็ดันหมดซะแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ เขียนเผื่อวันที่มีสต็อกเข้ามาอีกรอบแล้วกัน เพราะหนังสือสนุกมากจริง ๆ ค่ะ เป็นเล่มแรกเลยที่รู้สึกว่าอ่านจบแล้วต้องกลับมารีวิวในเว็บให้ได้
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของเฮเลน แม็คกิลล์ หญิงสาวอดีตครูวัยย่างสี่สิบที่ผันตัวมาเป็นสาวชาวไร่นานถึงสิบห้าปี เป็นคนอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ได้แต่อบขนมปังเย็บผ้าเลี้ยงไก่มาตลอด บังเอิญแอนดรูว์ พี่ชายที่เคยทำไร่ด้วยกันก็ดันได้เดบิวต์เป็นนักเขียนเบสต์เซลเลอร์ ได้จับปากกาเขียนปุ๊บก็ไม่จับจอบจับเสียมแล้ว แถมบางวันนึกจะหนีไปหาแรงบันดาลใจก็จากไปโดยไม่บอกกล่าว เฮเลนเองทั้งเบื่อทั้งโกรธทั้งเหงา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นัก
จนกระทั่งวันหนึ่ง บังเอิญมีชายร่างเล็กเคราแดงคนหนึ่งขับรถขายหนังสือเร่มาเสนอขายให้ถึงที่
ชายคนนั้นคือคุณมิฟฟลิน และรถคันที่ว่าคือพาร์นาซัส และเปล่า เขาไม่ได้มาขายหนังสือ แต่ตั้งใจจะมาขายรถและทุกอย่างในนั้นให้พี่ชายของเฮเลนในราคาสี่ร้อยดอลลาร์ต่างหาก
ด้วยความแค้นและกลัวว่าพี่จะขับรถม้าคันนี้หนีออกจากบ้านอีก เฮเลนจึงตัดสินใจซื้อรถเอาไว้เอง แต่นั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของเธอ เฮเลนกลายเป็นคนขายหนังสือฝึกหัด โดยมีคุณมิฟฟลินเป็นผู้สอนงาน
ตัวเรื่องบรรยายได้สนุกมากค่ะ เป็นหนังสือเก่าแล้วแต่สำนวนไม่เก่าเลย (อันนี้ต้องชื่นชมคุณนักแปลด้วย) ตัวละครมีเสน่ห์มาก คุณมิฟฟลินเป็นคนความรู้รอบตัวเยอะ ไหวพริบดี ขายเก่งมาก เฮเลนเป็นคนใจกล้า (มากเท่าที่หญิงสมัยนั้นจะกล้าได้) และซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองเสมอ อ่านแค่ที่สองคนนี้คุยกันก็สนุกแล้วค่ะ และยิ่งได้เห็นพัฒนาการทั้งของเฮเลนและความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ เชื่อว่านักอ่านหลายคนคงมีความสุขตามไปด้วย
เรื่องรี้บอกเล่าจากมุมมองของเฮเลนค่ะ ดังนั้นการสะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับค่านิยม “ความเป็นผู้หญิง” เลยค่อนข้างชัด และเขียนออกมาได้ดีแม้ว่านักเขียนจะเป็นชาย ผู้หญิงมักถูกคาดหวังว่าต้องอยู่บ้าน ทำกับข้าว ทำงานผู้หญิง ๆ การที่จะขับเกวียนออกไปขายหนังสือคนเดียวน่ะหรือ ลืมไปได้เลย เฮเลนคือคนที่กล้าท้าทายกรอบที่ว่า ที่เคยกักขังเธอมาทั้งชีวิต และก็ทำได้ดีเสียด้วย
หนังสือเล่มนี้ยังมีอีกหลายแง่มุมให้สัมผัสค่ะ และอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านด้วยตนเองดูสักครั้ง (และหวังว่าจะมีสต็อกเข้ามาอีกไว ๆ–) ใครที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้ในวันที่มีของแล้วและกำลังลังเลอยู่ ไม่ต้องลังเลแล้วนะคะ ซื้อเลยค่ะ นี่ก็กำลังจะไปซื้อภาคต่อมาอ่านเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ 🙂