คาลวินสงสัยเรื่องเวลา เขาแปลกใจที่โลกหลังความตายมีดวงอาทิตย์ขึ้นและตกด้วย แต่ที่นี่ไม่มีดวงจันทร์หรือดวงดาว เวลากลางคืน ท้องฟ้ากลางคืนจึงเป็นอะไรที่ว่างเปล่า — ว่างเปล่าเกินไป
คาลวิน มิลเลอร์ ไม่เคยคิดว่าพ่อของเขาจะรอดจากสงคราม เมื่อตายแล้วสิ่งแรกที่เด็กชายทำจึงเป็นการตามหาพ่อในโลกหลังความตาย ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนใหม่ ลัมแบร์ท ฟรังค์
midnight
เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจมาก แต่ในความอบอุ่นนั้นก็ได้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามที่มีผลต่อจิตใจ เอ็นดูในความไร้เดียงสาของเด็กชาย ในขณะเดียวกันก็ประทับใจในความกล้าหาญ เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความอบอุ่น เก็บเข้าคลังเล่มโปรดอีกเล่ม
winadta.jackson
ใครกำลังหาหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจแนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ🥰 ตอนแรกที่ซื้อเพราะชอบปกมากๆแต่พอได้อ่านแล้วรู้สึกชอบขึ้นไปอีกค่ะเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆจริงๆค่ะ
จิดาภา วงษ์ชารี
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไป ชอบเรื่องราวการผจญภัยของหนูน้อยคาลวิลมาก อ่านเเล้วหัวใจฟู เหมือนถูกเติมเต็มด้วยเรื่องราวในเล่ม
Moonrabbit
หนังสือเล่มนี้สอนให้รู้ว่า ความตายหาใช่จุดจบไม่ เมื่อกลิ่นอายมรณะลอยคละคลุ้ง เหล่ามนุษย์นั้นช่างน่าสงสาร เวียนว่ายตายเกิดซ้ำยังมิได้พักกระทั่งยามชีวามลายดิ้บสิ้น ใจในอกเต้นระรัวราวกลองสะบัดชัยแม้ร่างกายเหลือเพียงแค่กระดูก ความทะเยอะทะยานและไร้เดียงสาของเด็กน้อยมักจะจุดรอยยิ้มให้สว่างวาบราวกับดอกไม้ไฟ แม้สว่างชั่วครั้งคราวทว่าอุ่นซ่านและงดงามเหลือคณา อบอุ่นเรียบง่ายคล้ายถูกกอดรัดด้วยผ้าห่มอุ่นอันคุ้นเคย มิตรภาพต่างช่วงวัยหอมหวานบานสะพรั่ง ขาวบริสุทธิ์ปราศจากความซับซ้อนขุ่นข้อง เจือสีเทาหม่นแห่งลำน้ำผิดบาปที่วนว่องในใจ ทว่าเมื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งกลับก่อเกิดเรื่องที่ราวที่ไม่อาจหลงลืมลือนแม้ผ่านไปอีกกี่สัญฌา
(สิ่งที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้คือการถ่ายทอดมุมมองและเรื่องราวผ่านตัวละครที่เป็นเด็กค่ะ ด้วยความที่เราโตกว่า แต่การผ่านมุมมองของเด็ก ทำให้เราได้มองโลกในอีกมุมมองนึึง ซึ่งมันเป็นความเข้าใจง่ายที่ซับซ้อนพอสมควร เป็นอีกมิตินึงที่ทำให้รูิ้สึกแปลกใหม่และชื่นชมมาก ๆค่ะ ความจริงสั่งไปนานแล้วแต่เพิ่งผ่านช่วงไฟนอลเลยเพิ่งมีเวลามานั่งอ่าน นิยายของคุณเขานี่สนุกทุกเรื่องเลยนะคะ T///T )